แลกเปลี่ยน ภาวะโลหิตจางระหว่างตั้งครรภ์ คืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร? โรงพยาบาลนนทเวชมีคำตอบ


กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see

natalee7545

Member
Registered
สมัครเมื่อ
23 สิงหาคม 2017
โพสต์
22
  • กระทู้ เจ้าของ
  • #1

2PGdhu.jpg


ภาวะโลหิตจางระหว่างตั้งครรภ์ คืออะไร

ภาวะโลหิตจางระหว่างตั้งครรภ์ หมายถึง สตรีตั้งครรภ์มีความเข้มข้นของเลือดต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ เป็นความผิดปกติทางระบบเลือดที่พบได้บ่อยที่สุดในระหว่างตั้งครรภ์





โลหิตจางในสตรีตั้งครรภ์เกิดได้อย่างไร

สาเหตุที่พบบ่อยมากที่สุด มักเกิดจากการขาดสารอาหารที่จำเป็น โดยเฉพาะธาตุเหล็ก เนื่องจากธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดงนั่นเอง

สาเหตุอื่นๆ ที่พบได้บ่อย ได้แก่

• สูญเสียเลือดเรื้อรังตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์จากการเป็นประจำเดือน

• ขาดกรดโฟลิก

• โลหิตจางเนื่องจากมีกรรมพันธุ์ของโรคธาลัสซีเมีย ซึ่งพบมากในคนไทย

• สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้โลหิตจางเรื้อรังได้เช่น โรคไต โรคเอสแอลอี (SLE)



ผลกระทบจากภาวะโลหิตจางระหว่างตั้งครรภ์ต่อคุณแม่

• อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย

• เสี่ยงต่อการแท้ง และคลอดก่อนกำหนด

• เมื่อมีการเสียเลือดจากการคลอด จะทำให้ฟื้นตัวได้ช้าหลังคลอด เกิดภาวะช็อคได้ง่าย

• ติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกติ



ผลกระทบจากภาวะโลหิตจางระหว่างตั้งครรภ์ต่อลูกน้อย

ส่งผลต่อการเจริญเติบโต และการพัฒนาของทารกในครรภ์ ทำให้ทารกเติบโตช้า คลอดก่อนกำหนด รวมถึงทำให้ทารกมีน้ำหนักแรกคลอดน้อยกว่าปกติได้



โลหิตจาง และการขาดธาตุเหล็ก สำคัญกว่าที่คิด

ธาตุเหล็กมีความสำคัญมากโดยเฉพาะในสตรีตั้งครรภ์ เนื่องจากธาตุเหล็กทำหน้าที่ช่วยส่งผ่านอ็อกซิเจนจากคุณแม่ไปสู่ทารกในครรภ์ผ่านทางรก ซึ่งออกซิเจนกว่า 60% ที่ส่งไปนั้นจะไปเลี้ยงสมองของทารกในครรภ์นั่นเอง ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ธาตุเหล็กมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อพัฒนาการสมองของทารกในครรภ์



สมองของทารกในครรภ์มีการพัฒนาอย่างชัดเจนในไตรมาสที่ 2 และ 3 โดยเริ่มมีการสร้างรอยหยักในสมองตั้งแต่ช่วงอายุครรภ์ 24 สัปดาห์ เมื่ออายุครรภ์ 28 สัปดาห์ สมองจะพัฒนาส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำและการเรียนรู้อย่างรวดเร็ว และเมื่ออายุครรภ์ 32 สัปดาห์ สมองทารกจะมีการสร้างโครงข่ายเส้นประสาท ซึ่งทั้งหมดนี้จะพัฒนายาวนานไปจนถึงอายุ 2 ปีหลังคลอด







รอให้โลหิตจางแล้วจึงค่อยกินยาธาตุเหล็กเพื่อบำรุง ก็สายไป


เนื่องจากธาตุเหล็กของสตรีตั้งครรภ์จะถูกนำไปใช้ในการสร้างเม็ดเลือดแดงเป็นอันดับแรกก่อน ดังนั้นถ้าตรวจพบว่าโลหิตจางในขณะตั้งครรภ์ย่อมแปลว่า ธาตุเหล็กที่จะทำหน้าที่นำพาออกซิเจนไปเสี้ยงสมองของทารกในครรภ์ไม่เพียงพอเสียแล้ว



อยากให้ลูกน้อยเฉลียวฉลาดทั้ง IQ และ EQ ต้องเตรียมพร้อมตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์

การขาดธาตุเหล็กในสตรีตั้งครรภ์มีผลต่อความสามารถของสมองเด็กในการจดจำ และเรียนรู้สิ่งต่างๆตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยเรียน มีรายงานว่า คุณแม่ที่ขาดธาตุเหล็กตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ จะมีโอกาสทำให้เด็กที่คลอดออกมาเป็นออทิสติกสูงขึ้น และหากขาดธาตุเหล็กในช่วงไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์ก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคจิตเภทในบุตรถึง 30%

นอกจากนี้ ยังเกี่ยวพันถึงปัญหาทางอารมณ์เมื่อเด็กเติบโตขึ้น เช่นภาวะซึมเศร้า และวิตกกังวลอีกด้วย





จะทราบได้อย่างไรว่า มีภาวะโลหิตจาง หรือขาดธาตุเหล็กหรือไม่

สามารถตรวจได้โดยการเจาะตรวจเลือด ซึ่งสามารถวินิจฉัยภาวะโลหิตจาง การขาดธาตุเหล็ก รวมถึงโรคธาลัสซีเมียได้ เมื่อทราบการวินิจฉัย ก็จะสามารถวางแผนการดูแลรักษา หรือใช้ยาธาตุเหล็กเสริมได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากตรวจตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ก็จะช่วยในการวางแผนมีบุตร หรือตรวจในระหว่างตั้งครรภ์ก็จะช่วยในการดูแลคุณแม่และทารกในครรภ์ได้เป็นอย่างดีนั่นเอง



ขอบคุณข้อมูล

พญ.พัชราภรณ์ วงศาโรจน์

สูตินรีแพทย์ เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์

ศูนย์ครรภ์คุณภาพ ชั้น 4

โทร 0-2596-7901 หรือ 0-2596-7888


https://www.nonthavej.co.th/pregnancy-Anemia.php
 


Similar threads




DigitalOcean Referral Badge

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
กลับ
ด้านบน